top of page
  • รูปภาพนักเขียนFeminista

เราทุกคนรู้จักเด็กผู้หญิงที่ชื่อพลอย






บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือเรื่อง คิมจียอง เกิดปี 82


พลอยเป็นชื่อที่โหลมากที่สุดชื่อหนึ่งของเด็กผู้หญิง เราทุกคนมีคนรู้จักที่ชื่อพลอยอย่างน้อยหนึ่งคน โดยคนชื่อพลอยที่ว่านี้อาจจะมีความแตกต่างกันไปตามพื้นเพที่อยู่อาศัย โรงเรียนที่เรียน การเลี้ยงดู และการเติบโต แต่มีอย่างหนึ่งที่พลอยทุกคนเจอคือการต้องอยู่ภายใต้แนวความคิดแบบปิตาธิปไตย คุณอาจไม่คิดว่าในโลกที่ดูเหมือนผู้หญิงสามารถทำอะไร ๆได้เหมือนผู้ชาย แนวความคิดชายเป็นใหญ่จะทำความเดือดร้อนให้กับผู้หญิงได้นักหนา ดังนั้นในบทความนี้จึงอยากพาคุณมารู้จักผู้หญิงที่ชื่อพลอย นับแต่เกิดและเติบโตมาเป็นหญิงสาวอายุสามสิบสี่ ในฐานะของผู้หญิง “พลอย” ต้องเจอกับอะไร

ตั้งแต่เกิด พลอยเกิดมาพร้อมคำพูดของญาติๆว่าน่าเสียดาย ถ้าพลอยเป็นลูกคนเดียว ญาติๆและคนข้างบ้านก็จะบอกว่าเสียดายที่เป็นลูกสาว บวชให้พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ ใครจะเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ของพลอยหลังจากพลอยแต่งงานไป พลอยที่ยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำกลับถูกขีดเส้นอนาคตให้เสียแล้วว่าจะต้องเติบโตมามีชีวิตแบบไหน ยังไม่นับรวมความเป็นจริงที่ว่ามีโอกาสอยู่ประมาณหนึ่งที่แม่ของพลอยจะถูกบังคับให้ทำแท้งเพราะรู้ว่าพลอยจะเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิง Sex-selection หรือการเลือกเพศของทารกเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในหลายประเทศ เพราะความเชื่อที่ว่ามีแต่ลูกชายคนเท่านั้นที่จะสามารถสืบสกุลและเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ การทำแท้งควรเป็นสิทธิของผู้ตั้งครรภ์ก็จริงอยู่ แต่การถูกบังคับให้ทำแท้งอันเนื่องมากจากเพศสภาพแต่กำเนิดของทารกอันมีบริบทค่านิยมของสังคมและครอบครัวกดดันผู้ตั้งครรภ์ก็ควรถูกตั้งคำถามมิใช่หรือ


แค่ก้าวแรกของชีวิตการเกิดมาภายใต้เพศสภาพหญิงก็มีอุปสรรคในชีวิตแล้ว พอโตขึ้นพลอยก็เริ่มค้นพบว่ามีอะไรมากมายที่พลอยไม่สามารถทำได้ เรื่องที่ตลกที่สุดคือพลอยถูกห้ามไม่ให้ทำอะไรตามใจที่อยากทำเพราะพลอยเป็นเด็กผู้หญิง แต่พอพลอยไปฟ้องครูว่าเด็กผู้ชายแกล้ง ทุกคนกลับบอกให้พลอยอดทน เพราะเด็กผู้ชายก็เป็นแบบนี้


ไม่ ไม่ ไม่


เด็กผู้หญิงต้องไม่ทำแบบนั้น เด็กผู้หญิงต้องไม่ทำแบบนี้ มีแต่คำว่าไม่มากมายที่ทุกคนบอกพลอย พลอยจะวิ่งเล่นแบบเด็กผู้ชายไม่ได้ พลอยจะเสียงดังแบบเด็กผู้ชายไม่ได้ พลอยจะทำตัวซนเหมือนเด็กผู้ชายไม่ได้ คำว่า ไม่ ถูกนำมาใช้ให้พลอยต้องเชื่อฟัง ทั้งที่พลอยยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายแตกต่างกันอย่างไร อีกเรื่องตลกที่พลอยไม่ค่อยขำเท่าไหร่คือทุกคนชอบบอกพลอยว่าไม่ แต่ไม่เคยมีใครฟังคำว่า ไม่ ของพลอยเลย พลอยไม่ชอบให้ใครมาโดนตัว ไม่ชอบโดนคนแปลกหน้าที่ไหนหอมแก้ม ไม่ชอบให้มีคนมาล้วงเข้าไปในกางเกงพลอย พลอยพยายามบอกทุกคนแล้ว แต่ไม่มีใครสักคนเชื่อที่บอก ทุกคนพูดว่าผู้ใหญ่เขาก็แค่เอ็นดู ทำไมพลอยถึงโวยวาย


กว่าพลอยจะโตพอที่จะเข้าใจว่าพลอยมีสิทธิในร่างกายตัวเองอย่างเต็มที่ มีสิทธิที่จะไม่พอใจที่ถูกละเมิดสิทธิ ไม่พอใจเวลาถูกลวนลามผ่านคำอ้างว่าเอ็นดู พลอยก็โตเป็นผู้ใหญ่ไปแล้ว คุณอาจคิดว่าแล้วจะอะไรนักหนา ชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะเสียหายเท่าไหร่กันเชียว แต่คุณรู้ไหมว่าพลอยไม่เคยกล้าโวยวายเลยสักครั้งเวลาถูกลวนลามบนรถเมล์ ไม่เคยกล้าปฏิเสธคนที่เข้ามาจีบ ไม่เคยกล้าพูดคำว่าไม่เลยสักครั้ง


คุณอาจคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่เชื่อเถอะว่าสังคมที่เอาแต่พูดคำว่าไม่กับผู้หญิงกำลังกล่อมเกลาให้พวกเธอเชื่อง มีผู้หญิงมากมายที่ถูกเอาเปรียบจากบรรทัดฐานของสังคมมาตั้งแต่เด็ก ในวันที่พวกเธอโตขึ้น ในวันที่กล้าพอที่จะพูดเพื่อปกป้องและทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง ผู้คนกลับไม่เชื่อเธอ


สังคมไม่เคยเชื่อเหยื่อที่ถูกกระทำมากกว่าผู้ร้ายที่บอกว่าไม่ได้ทำ

มันคงจะดีกว่านี้สำหรับพลอย ถ้าตั้งแต่เด็กพลอยถูกสอนให้ทำความเข้าใจในสิทธิของตัวเองและทุกคนเชื่อคำว่าไม่ของพลอย บางทีพลอยอาจจะไม่ต้องรอจนเป็นผู้ใหญ่ถึงจะเรียนรู้ว่าตัวเองมีสิทธิที่จะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่พลอยทำไม่ได้ในสังคมแห่งปิตาธิปไตยนี้อยู่ดี

พอพลอยเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ความเป็นผู้หญิงก็ยิ่งทำให้พลอยยิ่งรู้สึกตัวเล็กลงไปเรื่อย ๆ พลอยคนที่ฉันกำลังพูดถึงอยู่นี้เติบโตมาในบ้านเชื้อสายจีน มีอากง มีอาม่า เป็นครอบครัวใหญ่ที่ทุกวันตรุษจีนและวันเชงเม้งจะต้องกลับมารวมตัวกัน พลอยจำได้ดีว่ามันเป็นวันที่เหนื่อยสุดๆ พวกผู้หญิงจะต้องตื่นตั้งแต่เช้า ทำอาหาร เก็บบ้าน และอื่น ๆอีกมากมาย แต่พอถึงเวลาแจกซองอั่งเปา เหล่าหลานชายที่นอนตื่นสายเกือบเที่ยงกลับได้เงินปีใหม่เยอะกว่าเป็นเท่าตัว

พลอยที่เติบโตมาในบ้านคนไทยแท้ก็ประสบชะตากรรมไม่ได้ต่างกันมากมายเท่าไหร่ เธอถูกคาดหวังให้ตื่นก่อนเจ็ดโมงเช้า ทำอาหารอร่อย และทำความสะอาดบ้านได้อย่างสะอาดหมดจด ถ้าพลอยมีพี่ชายหรือน้องชายก็มีความเป็นไปได้เกินครึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน พอพลอยไปถามแม่ว่าทำไมถึงมีแค่เธอที่ต้องเจออะไรแบบนี้ แม่ก็จะตอบแค่ว่าเพราะเธอเป็นผู้หญิงและที่พี่ชายน้องชายไม่ต้องทำก็เพราะเขาเป็นผู้ชาย พ่อของพลอยก็ไม่เคยล้างจาน ตาของพลอยไม่เคยต้องทำอาหาร ปู่ของพลอยก็ไม่ต้องกวาดบ้านเหมือนกัน โลกเปลี่ยนแปลงไปมากมายแต่บ้านของพลอยทุกคน ผู้หญิงยังต้องทำงานบ้านเหมือนเดิม


หลายปีผ่านไปพลอยโตเป็นสาวเข้าสู่ช่วงมัธยมต้น แม่ของพลอยได้เรียนมาถึงแค่นี้ก็ต้องออกจากโรงเรียน เพราะยายของพลอยไม่เห็นว่าเด็กผู้หญิงจะต้องเรียนให้สูง สักวันก็ต้องออกมาแต่งงานเป็นเมียและแม่ของใครสักคน ดังนั้นแม่เลยต้องออกจากโรงเรียนทำงานส่งเสียให้น้องชายได้เรียนหนังสือ เพราะแบบนั้นในวันแรกที่แม่มาส่งพลอยที่โรงเรียน แม่ย้ำให้ฟังจนเบื่อว่าพลอยโชคดีแค่ไหนที่ได้เรียนหนังสือ มีใครอีกหลายคนไม่ได้โชคดีอย่างนี้ แม่พูดจนพลอยสงสัยว่าจะมีใครพูดประโยคเดียวกันนี้กับเด็กผู้ชายด้วยหรือเปล่า ว่าพวกเขาโชคดีแค่ไหนที่มีคนเสียสละให้ได้เรียนหนังสือ


ทำไมเธอถึงคิดว่าตัวเองโชคดีเพราะแค่ตัวเองเป็นผู้หญิงกัน


ในระหว่างทางแห่งการศึกษาภาคบังคับ พลอยได้เห็นเรื่องราวต่าง ๆมากมาย พลอยเห็นเพื่อนบางคนตั้งท้อง บางคนก็ไปทำแท้งท่ามกลางเสียงประณามมากมายว่าลูกตัวเองทั้งคนฆ่าลงไปได้ยังไง บางคนก็ลาออกจากโรงเรียนไปคลอดลูกเพราะครอบครัวไม่ยอมให้ทำแท้ง แต่ไม่ว่าจะทำแท้งหรือไม่ เด็กผู้หญิงหลายคนก็หลุดจากระบบการศึกษาไปเพราะความอับอายอยู่ดี ในขณะที่คนที่ทำให้เด็กพวกนั้นตั้งท้องก็ยังคงใช้ชีวิตได้ต่ออย่างเป็นปกติ พลอยรู้สึกว่าคนเราช่างคาดหวังกับความเป็นแม่ไว้ตั้งมากมาย ทำไมผู้หญิงจะต้องรักลูกทันทีที่รู้ตัวว่าตั้งท้องด้วย การทำแท้งทำไมถึงเป็นบาปสำหรับผู้หญิงมากมายขนาดนั้น นักเรียนหญิงที่ลาออกมาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวถูกด่าว่านินทาว่าท้องไม่พร้อมอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วก็ใช่ว่าพวกเธอจะอยู่ ๆตั้งท้องขึ้นมาได้เองที่ไหน


พอพลอยขึ้นม.ปลาย จบการศึกษาและกำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย พลอยได้เจอเพื่อนร่วมชั้นที่ลาออกไปตอนม.ต้น เพื่อนพลอยในตอนนี้ทำงานที่ร้านแห่งหนึ่งเพื่อหาเงินให้ลูกได้เข้าเรียนชั้นอนุบาล พลอยถามเพื่อนว่าเหนื่อยไหม มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า เธอตอบว่าเหนื่อยสิ แต่ไม่เป็นไร ก่อนออกมาจากร้าน เธอมองเพื่อนตัวเองอีกครั้ง เด็กผู้หญิงคนที่โดนคนทั้งโรงเรียนนินทาว่าใจแตก ท้องไม่มีพ่อ เรียนไม่จบ ทิ้งลูกไว้ให้แม่เลี้ยงกับคนที่ทำงานสายตัวแทบขาดเป็นคนเดียวกัน พลอยเองก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อของเด็กเป็นใคร แต่คงมีชีวิตที่ดีกว่านี้อยู่ที่ไหนสักแห่งโดยที่ไม่ต้องโดนประณาม


ในช่วงเวลาที่โตเป็นสาว พลอยได้เจอเรื่องแปลกๆมากมายในชีวิต ถ้าพลอยเป็นคนสวยแล้วโดนลวนลาม คนจะถามพลอยว่าทำไมพลอยถึงแต่งตัวโป๊ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอง พลอยต้องรับผิดชอบที่ตัวเองโดนลวนลามด้วย แต่ถ้าพลอยไม่ใช่คนสวยคนจะหัวเราะเธอ บางคนก็จะไม่เชื่อเธอ ตอนเรียนมหาลัยพลอยโดนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งตามไปทุกที่ เธอไม่ใช่คนสวยเลยไม่กล้าบอกใครเลยด้วยซ้ำว่าเธอถูก

สตอร์คเกอร์ตาม แต่เรื่องที่พลอยไม่รู้คือ ต่อให้พลอยเป็นคนสวย คนก็ไม่เชื่อเธออยู่ดี เธอจะถูกถามว่าได้ไปให้ความหวังเขาหรือเปล่า เผลอ ๆ คนจะเข้าข้างคนที่ตามเธอจนเสียขวัญเสียด้วยว่าเขาทำไปเพราะรัก เรื่องตลกร้ายที่ไม่ตลกอีกเรื่องคือไม่ว่าจะกลัวแค่ไหน แต่ถ้าเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายก็คงไม่มีกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายก็จะมองว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญอะไร ไม่สามารถเอาผิดได้ตามกฎหมาย แถมตำรวจอาจจะไม่รับแม้แต่ลงบันทึกประจำวันด้วยซ้ำ


พอเรียนจบปริญญาตรีแม้พลอยจะเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิในร่างกายมากกว่าที่ตนเองคิด แต่ถึงแบบนั้นพลอยกลับค้นพบว่าไม่ว่าอย่างไรคนรอบตัวก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองมีชีวิตตามแบบที่ตัวเองคาดหวัง ถ้าพลอยไม่มีแฟนคนจะเริ่มพูดว่าเพราะพลอยไม่สวย เพราะพลอยปล่อยให้ตัวเองอ้วน เพราะพลอยตื่นสาย เพราะพลอย.... ถึงพลอยจะยืนยันหนักแน่นว่าชีวิตนี้ขอไม่แต่งงาน พลอยจะเติบโตอย่างมั่นคงและยืนได้ด้วยขาของตัวเอง พอพลอยพูดแบบนั้นให้คนรอบตัว แม่ ครอบครัวและญาติๆฟัง คำถามก็จะเริ่มถาโถมว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปได้ไกลขนาดไหนกัน จนพลอยอยากจะถามเหลือเกินว่าที่ผู้หญิงประสบความสำเร็จไม่ได้มันมีปัญหาที่เธอหรือที่แนวคิดของสังคมกันแน่


ในวันหนึ่งที่พลอยประสบความสำเร็จก็จะมีคำครหามากมายว่าเธอใช้มารยาหญิงหรือเปล่า หรือไม่ก็กังขาในความสำเร็จของเธอว่ามีผู้ชายอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พวกเธอได้รับอนุญาตให้ประสบความสำเร็จแต่อย่าเกินหน้าเกินตากว่าความเป็นผู้หญิงของตัวเอง นักร้องคนโปรดของพลอยต้องเผชิญกับข้อกังขาแบบที่ว่านี้เช่นเดียวกัน ทั้งที่เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งเพลงได้เพราะที่สุดในศตวรรษ แต่ผู้คนก็กังขาในความสำเร็จของเธออยู่ดี ราวกับบนโลกที่มีผู้ชายประสบความสำเร็จอยู่มากมายแห่งนี้ ที่ที่ผู้หญิงจะประสบความสำเร็จได้มีจำกัดเหลือเกิน


แต่ถ้าพลอยมีแฟน คนก็จะเริ่มถามพลอยว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ทำไมพลอยถึงยังไม่มีลูก ถ้าพลอยมีลูกแล้วยังไม่ลาออกจากที่ทำงานพลอยก็โดนหาว่าเอาเปรียบคนอื่นระหว่างที่ตัวเองลาคลอด พลอยที่ทำงานดึกมากไม่ได้เพราะต้องกลับบ้านไปหาลูกก็จะถูกนินทา ถ้าพลอยลาออกไปเลี้ยงลูกกว่าจะได้กลับมาทำงาน พลอยก็ค้นพบว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะสมัครงานอีกครั้ง แต่พลอยที่ไม่ได้ทำงานก็ค่อยๆสูญเสียความเป็นพลอยไป เธอเป็นแค่แม่ของใครสักคน แค่เมียของใครสักคน พลอยค้นพบว่าตัวเองจะต้องทำงานบ้านให้ดี ต้องเลี้ยงลูกให้ไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาดมันก็จะเป็นความผิดของเธอที่แค่ทำงานบ้านกับเลี้ยงลูกไม่ต้องทำงานประจำ แต่กลับทำให้ดีไม่ได้ ก่อนที่พลอยจะรู้ตัว พลอยก็ลืมแล้วว่าได้คุยกับเพื่อนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ได้ไปเที่ยวครั้งสุดท้ายตอนไหน เพลงโปรดของพลอยเริ่มถูกแทนที่ด้วยเพลงกล่อมเด็ก พลอยเสียสละอะไรไปมากมายตอนที่อายุสามสิบสี่ปีเพื่อเป็นแม่คน ทั้งที่การเลี้ยงลูกและทำงานบ้านไม่ถูกนับเป็นงานประจำด้วยซ้ำ


หากคุณอ่านบทความนี้มาถึงตอนนี้ คุณอาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับผู้หญิงที่ชื่อพลอยบ้างไม่มากก็น้อย เพราะทุกคนต่างเคยเป็นพลอยหรือรู้จักพลอยกันทั้งนั้น ผู้เขียนเองก็เช่นกัน ในฐานะของผู้หญิง ลูกสาว น้องสาว คนที่มีหลานสาว และอาจจะมีลูกสาวสักคนในวันข้างหน้า บทความฉบับนี้รวบรวมเอาประสบการณ์และเรื่องราวของคนรอบตัวมาเขียนขึ้นด้วยความหวังว่า โลกในวันที่ลูกหลานของเราเติบโตจะมีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หวังให้เด็กทุกคนได้เติบโตมาอย่างไม่ถูกแบ่งแยก หวังให้สำหรับเด็กผู้หญิงตอนกลางคืนปลอดภัยกว่านี้สักหน่อย หวังว่าคำว่า “ไม่” จะถูกลบหายไปให้เด็กทุกคนได้เติบโตอย่างอิสระและเป็นตัวเอง



ปล.


ปัจจุบันโลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล เรื่องราวบางเรื่องคุณอาจไม่เคยเจอหรือคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยเจอ โปรดทราบด้วยว่านั่นไม่ได้หมายความไม่มีใครเคยเจอ ผู้หญิงยังคงถูกกีดกันในโอกาสหน้าที่การงานมากมายเพราะเพศสภาพ กระบวนการยุติธรรมและกฎหมายก็ยังคงอยู่ภายใต้สังคมแบบปิตาธิปไตย เรามีจำนวนสส.หญิงเพียงแค่ 76 คน จากจำนวนทั้งหมด 500 คน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเป็นผู้ชาย สิทธิและเสียงที่ดูเหมือนจะเท่ากันของผู้หญิงเบาบางกว่าที่สังคมคิดหลายเท่าตัวนัก








ดู 498 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page